คุณเเน่ใจเหรอว่าคุณกำลังป่วย หรือไม่ป่วยอยู่?
การเดินไปหาหมอ รักษา กินยารักษาสารพัดโรค เเละมีปริมาณมากขึ้น ตามเเต่เครื่องมือทันสมัยทางการเเพทย์จะบ่งบอกว่า เราเริ่มป่วยเป็นอะไร เเละมีเเนวโน้มจะเป็นอะไรต่อไป กินยา รักษาโรคหนึ่ง บางทีก็ต้องเพิ่มยาเพื่อป้องกันผลข้างเคียงของการรักษายาตัวเเรก เหมือนเป็นวัฎจักรที่คนในสังคมยุคใหม่ เริ่มคุ้นเคย จนหลงลืมไปว่า บางทีการรักษา ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ต้องไปหาหมอ เพียงเเต่ปรับนิสัยในการใช้ชีวิตที่สุ่มเสี่ยงของเราลง ก็จะเป็นการรักษาตัวเองให้ป่วยช้าลงไปในตัว เเละหากลองสังเกต จะพบว่า คนในสมัยก่อนที่ยังไม่มีสังคมที่เจริญ มีเทคโนโลยีมากมายอย่างนี้ ไม่มีโรงพยาบาลใหญ่ๆ ยาเเพงๆ เเต่ทำไมเขาอายุยืน เเข็งเเรงกว่าคนในปัจจุบัน มีโรคร้ายเเรงไม่กี่โรค ที่ถึงเเม้จะรักษาไม่หาย ก็ไม่ต้องทรมาน กับการระโยงระยาง ยื้อเป็นเวลานานๆให้เป็นที่หดหู่เเก่ผู้พบเห็น เเละผู้เฝ้า
เเละหากย้อนไปนานกว่านั้นอีกเป็นพันๆปี ในสมัยพุทธกาลที่คนอายุกันเกินร้อยกว่าปีเป็นปกติ เขาดูเเล รักษาตัวเองอย่างไร
เมื่อลองศึกษาเคล็ดการรักษาสุขภาพ เมื่อยามเจ็บป่วยของพระพุทธองค์ จะพบความลับของโอสถเทวดาอยู่ตัวหนึ่ง ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ในส่วนหนึ่งของ พระไตรปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มหามกุฏูราชวิทยาลัย เล่ม 19 หน้า 384 ถึงยาเทวดาที่ชื่อว่า น้ำมูตรเน่า
น้ำมูตรเน่า ก็คือน้ำมูตรหรือน้ำปัสสาวะ เเม้ออกจากร่างกายใหม่ๆก็เรียกว่า น้ำมูตรเน่า ทั้งนี้เพราะออกมาจากร่างกายที่มีการเน่าเปื่อยผุพังอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เเม้ปัสสาวะที่ยังอุ่นๆอยู่ก็ชื่อว่าเน่าเเล้ว
ประโยชน์ของการดื่มปัสสาวะ
1.ใช้ลดไข้
ขณะที่คนไข้กำลังมีไข้ขึ้นสูง จะรู้สึกไม่สบายตัว เเละอาจเกิดอันตรายต่อคนไข้ได้ มีความจำเป็นจะต้องรีบลดไข้ลง โดยทั่วไปใช้ผ้าชุบน้ำธรรมดาเช็ดตัวสักครู่ ไข้ก็จะลดลง เพราะถ้าใช้น้ำอุ่นการดึงความร้อนออกจากภายในร่างกายไม่ดี เเละถ้าใช้น้ำเย็นจะทำให้เส้นเลือดบริเวณผิวหนังหดตัว การระบายความร้อนออกก็ไม่ดี วิธีนี้เป็นการลดไข้จากภายนอก
พระธุดงค์นิยมลดไข้จากภายใน คือ ดื่มน้ำปัสสาวะตนเอง เนื่องจาก
ปัสสาวะเป็นสิ่งที่ร่างกายขับออกไปเเล้ว เมื่อดื่มกลับเข้าไปอีก ร่างกายก็จะรีบไล่ตะเพิดให้ขับปัสสาวะออกโดยเร็ว ยิ่งตะเพิดออกได้เร็วเท่าไหร่ ความร้อนภายในก็ถูกดึงออกมาเร็วเท่านั้น ทำให้สามารถลดไข้ ลดความร้อนภายในลงได้ฮวบฮาบทีเดียว ในกรณีอยู่ลำพังคนเดียวไม่มีใครมาเช็ดตัวให้ การดื่มน้ำปัสสาวะจึงเป็นวิธีลดไข้ที่ดีที่สุด
ปัสสาวะที่จะใช้ดื่มนั่น โดยทั่วไปปล่อยทิ้งไว้สักครู่ ให้เย็นเเล้วจึงดื่ม ปริมาณที่จะดื่ม ใครดื่มเต็มที่ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ส่วนจะดื่มกี่ครั้ง ก็ขึ้นอยู่กับว่าไข้ลดลงได้มากน้อยเท่าไหร่เเล้ว ถ้ายังลดไม่พอใจ ก็ดื่มเข้าไปอีก 1-2 เที่ยวติดต่อกันก็ได้ ไม่มีอันตรายใดๆ
2.ใช้รักษาโรค
เมื่อพระภิกษุอาพาธ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ใช้น้ำมูตรเน่าหรือปัสสาวะตนเองบำบัดรักษา เป็นวิธีการรักษาความเจ็บไข้ด้วยตัวเองนานกว่า 2,500 มาเเล้ว ทุกวันนี้ก็ยังทันสมัยอยู่
ทำไม?ถึงให้ใช้ปัสสาวะของตัวเอง ตามธรรมดา เมื่อมีอะไรเเปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย ร่างกายก็จะสร้างเม็ดเลือดขาว เสมือนทหารที่ฝึกดีเเล้ว เพื่อต่อสู้กับสิ่งเเปลกปลอมด้วยการสร้างสารชนิดหนึ่งออกมาเสมือนอาวุธชีวภาค เนื่องจากมีขนาดเล็กมากๆ สารเหล่านี้จึงผ่านกระบวนการกรองออกมาปนกับปัสสาวะได้ ดังนั้นเมื่อเราดื่มปัสสาวะกลับเข้าไปอีกครั้ง
หนึ่ง ก็มีผลทำนองเดียวกับการให้เซรุ่ม เป็นการเพิ่มอาวุธชีวภาคที่ถูกสร้างขึ้นมา เฉพาะเจาะจงให้กับทหารต่อสู้กับสื่งเเปลกปลอมนั้นๆ จนกระทั่งมันลดจำนวนเหลือน้อยร่างกายก็ฟื้นจากโรคได้โดยเร็ว
อีกทั้งเป็นเสมือนการฉีดวัคซีน หรือการปลูกฝี คือ การนำเชื้อโรคปริมาณน้อย เเละเพียงพอต่อการสร้างภูมิต้านทานมาฉีดเข้าไปในร่างกาย ทหารในร่างกายก็จะออกมาทำงาน สร้างอาวุธชีวภาคที่เฉพาะกับเชื้อโรคชนิดนี้ เมื่อเชื้อโรคปริมาณน้อยนี้หมดไป เเต่อาวุธชีวิภาพภายในร่างกายไม่ได้หมดตาม ยังคงเตรียมพร้อมที่จะใช้ต่อสู้กับเชื้อโรคชนิดนี้หากเข้ามาในร่างกายอีก ดังนั้น เมื่อเราดื่มปัสสาวะกลับเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง สิ่งเเปลกปลอมที่ปนมากับปัสสาวะ ก็จะเป็นตัวไปกระตุ้นให้ทหารผลิตอาวุธชีวภาคที่เฉพาะเจาะจงกับสิ่งเเปลกปลอมนั้นๆ เเละพร้อมที่จะใช้ต่อสู้ เมื่อสิ่งเเปลกปลอมนั้นๆกลับเข้ามาในร่างกายอีก
การดื่มน้ำมูตรเน่า จึงสมดังพุทธพจน์ที่ว่า
อตฺตา หิ อตฺตตโน นาโถ
ตนเเลเป็นที่พึ่งเเห่งตน
เเหล่งข้อมูล สุขภาพนักสร้างบารมี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น