วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564






 ตัวเลือกของวัคซีนในปัจจุบันมีหลากหลายขึ้น พอๆกับการระบาดกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด ก็ปรับไปตามสถานการณ์เช่นกัน จนถึงคำถามสุดท้ายของวัคซีนตัวเลือกวัคซีน mRNAที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด คือ Pfizer และ Moderna ตัวไหนจะดีกว่า ฉีดสลับกันได้หรือเปล่า  ปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจ มีมากน้อยแค่ไหน มาทำความรู้จักวัคซีน 2 ชนิดนี้กัน

1.วัคซีน Pfizer มีชื่อจริง ว่า  Comirnaty (คอเมียร์นาตี้)

2.วัคซีน Moderna มีชื่อจริงเรียกว่า spikevax (สไปท์แวค)

ปริมาณการฉีด

1.Pfizer จะฉีดในผู้ใหญ่ ปริมาณ 30 ไมโครกรัม ห่างกัน 3 อาทิตย์

 (ส่วนเด็ก 5-11 ขวบจะฉีดปริมาณ 10 ไมโครกรัม) ห่างกัน 3 สัปดาห์

2. Moderna ฉีด 100 ไมโครกรัม

(ส่วนเด็ก 5-11 ขวบยังไม่มีการใช้ แต่มีการทำการทดลองแล้ว ต้องรอผลกันต่อไป) ระยะห่างการฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์

        


        หลังจากมีการเก็บข้อมูลของ CDC คือ ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention) และมหาวิทยาลัยเยล (Yale University) เกี่ยวข้องกับวัคซีน 2 ชนิดนี้ พบว่าวัคซีน Moderna มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโควิดหลังจากฉีดวัคซีนเหนือกว่าวัคซีน Pfizer เล็กน้อย โดยกรณีของ CDC ผลของวัคซีน Moderna มีประสิทธิภาพในการป้องกันคนไข้มานอนโรงพยาบาลได้ 95% ในขณะที่ Pfizer ป้องกันได้ 80%ต่างกันบ้าง มหาวิทยาลัยเยล (Yale University) อยู่ที่ 80 % ส่วน Moderna อยู่ที่ ซึ่งเมื่อเที่ยบกับตัวอื่น ทั้งสองก็ยังถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก

ผลเสียเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเนื้อเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ

        ในความเป็นจริงทั้งสองวัคซีนเจอผู้ป่วยหลังฉีดวัคซีนเข็มสองเป็นจำนวนน้อยมากๆ และพอเจอในกรณี Moderna มากกว่า Pfizer 2.5 เท่า

        ตัวเลขผู้ป่วยจากการฉีดวัคซีน mRNAประมาณ 12.6 คน ใน หนึ่งล้านคนที่ฉีดวัคซีนไป ซึ่งก็ถือว่าน้อยมากๆ ที่แสดงให้เห็นว่าถึงมีปัญหาบ้าง แต่สัดส่วนคนที่เกิดปัญหาเทียบกับจำนวนคนนับล้านที่ฉีดก็ยังไม่น่ากังวล

ทำไม Moderna ถึงมีประสิทธิภาพสูงกว่า

        ตามความคาดการณ์ อาจจะเป็นปริมาณจำนวนโดสที่ให้สูงกว่า เกือบ3 เท่าของไฟเซอร์

หรือเป็นตัวหุ้ม mRNA หรือไลปิดนาโนพาทิเคิล ที่วัคซีน2 ชนิดนี้ใช้ในขบวนการเป็นตัวต่างกันอีกสมมุติฐานหนึ่งก็คือ ระยะเวลาความห่างระหว่างเข็มในการฉีดคซีน ที่ Pfizer ใช้ระยะห่าง 3อาทิตย์แต่ Moderna ใช้ 4 อาทิตย์ การเว้นระยะวัคซีน 2 เข็มห่างกันนานขึ้น ก็จะทำให้ภูมิที่เราได้รับจากการกระตุ้น สูงขึ้นตามไปด้วย กว่าการเว้นที่น้อยลง

        แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนจนถึงปัจจุบัน แม้การตอบคำถามว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจ หรือเนื้อเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบใน Moderna สูงกว่า Pfizer

        สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ผลการวิจัยก็ออกมาชัดเจน ว่า 

1.ผู้ได้รับวัคซีนmRNA มีโอกาส 12.6 คนใน 1 ล้านคน

2.ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน แล้วติดโควิดในช่วงอายุ 12-17 ปี มีโอกาสเกิดได้ถึง 450 คนใน 1ล้านคน

        ซึ่งกรณีแรกที่พบอาการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ จากการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง จะแสดงผลให้เห็นภายในระยะเวลาแรกๆ ไม่เกิน3-4 วันหลังการฉีดวัคซีน ซึ่งสามารถหายได้จากการใช้ยาหลายๆตัวรักษา เช่น แอสไพลิน หรือยาลดการอักเสบ ซึ่งอาการจะไม่รุนแรง

    สลับวัคซีนได้ไหม

ระหว่างวัคซีนmRNA จะสลับกันได้ไหม เช่น เข็มที่ 1 เป็นไฟเซอร์ เข็มที่2 จะเป็น โมเดอร์นา

    ไม่มีปัญหา หรือจะบูทด้วยวัคซีนต่างกันก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน การสลับไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้ฉีดเอง ยังไงการฉีดวัคซีนไว้มีผลดีมากกว่าแน่นอน ลดการติดโควิดที่ไม่ว่าจะกลายพันธุ์แค่ไหนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยกว่าผู้ที่ไม่ฉีดแน่นอน

ขอบคุณแหล่งที่มา Docter Tany Pfizer กับ Moderna ตัวไหนดีกว่า? - YouTube

 

 


จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Unordered List

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

โพสต์แนะนำ

ภูติ ผี ปีศาจ เเตกต่างกันอย่างไร

                ภูติ ผี ปีศาจ เป็นคำที่เราเคยได้ยินได้ฟัง มาตั้งเเต่ยังเด็ก เเม้กระทั่งละคร ภาพยนต์ต่างๆก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้...

Popular Posts

Text Widget