คนมากราบไหว้บูชามหาธรรมกายเจดีย์รุ่นหลังๆเขาจะเห็นเเต่องค์พระธรรมกายประจำตัวที่อยู่บนเจดีย์ โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งก่อสร้างที่อยู่ใต้ดินนั้นประณีตขนาดไหน กว่าจะสร้างขึ้นมาเป็นพระมหาธรรมกายเจดีย์ให้ได้เห็นกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย
วัดพระธรรมกายโดนโจมตีช่วงปี พ.ศ. 2541 มีคนบอกว่า พระธรรมกายประจำตัวที่ให้ร่วมบุญองค์ละหมื่นบาทนั้นเเพง คนพูดนี้เขาพูดเเบบคนไม่รู้เรื่อง ไม่รู้คุณค่าถึงสิ่งที่เรากำลังทำ
หลวงพ่อท่านเลยบอกว่าต่อไปนี้ใครจะร่วมบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวจะต้องร่วมบุญองค์ละ 15,000 บาท จากนั้นมาทุกคนต้องร่วมบุญเพิ่มจากองค์ละ 10,000 เป็น 15,000 บาท ซึ่งองค์พระธรรมกายประจำตัวของเรานั้น
ต้องตากเเดดตากฝนเป็นพันปี โลหะที่ใช้ไม่ใช่ทองเหลืองเเบบทั่วๆไป เป็นทองสัมฤทธิ์ไม่ใช่ทองสัมฤทธิ์ธรรมดา เป็นทองสัมฤทธิ์เเบบซิลิคอนด้วย
จากเเนวคิดการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ หลวงพ่อท่านบอกให้อยู่เป็น 1,000 ปี เพราะฉะนั้นไม่เปิดให้ใครเข้าไปภายในเจดีย์ พอบรรจุองค์พระธรรมกายประจำตัวเสร็จ ทุกอย่างก็เสร็จหมด จะไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คอยดูเเลรักษาเจดีย์ เพราะฉะนั้นมหาธรรมกายเจดีย์ของเราต้องไม่ใช่เจดีย์ตายๆเเต่เป็นมหาเจดีย์ที่หายใจได้
มหาธรรมกายเจดีย์ทำความสะอาดด้วยตัวของตัวเอง เมื่อฝนตกลงมาจะ
ชะล้างฝุ่นที่เป็นองค์พระบนโดม เเละที่เชิงลาดของมหาธรรมกายเจดีย์ ข้างในเจดีย์มีช่องอยู่ ช่องชั้นข้างบนเเละชั้นข้างล่างใต้โดมจะเป็นชั้นๆให้อากาศถ่ายเทได้ หมายถึงอะไร เวลาเเดดส่องมา องค์เจดีย์จะร้อนมาก คนอยู่ไม่ได้ เอามือเเตะไม่ได้ อุณหภูมิประมาณสัก 76 องศาพอร้อนจัด อากาศที่อยู่ข้างในก็จะขยายตัว ลอยตัวขึ้นมา อากาศร้อนที่ลอยตัวขึ้นมาจะดูดอากาศเย็นที่อยู่ข้างล่างให้เข้าไปตามช่องที่เรากำหนดไว้ นี่คือการให้เจดีย์หายใจ เป็นหลักการเดียวกันกับหลักของกาลักน้ำ ซึ่งเกิดจากน้ำที่อยู่สูงกับน้ำที่อยู่ที่ต่ำเเล้วเรามีท่อต่อมันจะดูดจากข้างบนลงมาข้างล่างได้ เช่นเดียวกันอุณหภูมิสูงมันจะดูดอุณหภูมิต่ำขึ้นมา เราเรียกเทอร์โมไซฟอน(Thermosiphon)
การที่มหาธรรมกายเจดีย์หายใจได้ จะทำให้อากาศถูกดึงออกไปเกิดการถ่ายเทอากาศ เลยทำให้ไม่อับ เเล้วเราไม่ต้องมีอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีไฟฟ้า เเต่ระหว่างที่เราต้องทำงานจะมีสายไฟชั่วคราว เมื่อใดก็ตามที่การก่อสร้างเสร็จหมด เราจะปิดเจดีย์ ระบบไฟฟ้าไม่มีความจำเป็นเลย เเละทุกอย่างจะอยู่ต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อย 1,000 ปี....
เเหล่งอ้างอิง เรื่องเล่าจากพระครูปลัดภูเบส ฌานาภิญฺโญ สโตร์หน้าวัด The Store Story
วัดพระธรรมกายโดนโจมตีช่วงปี พ.ศ. 2541 มีคนบอกว่า พระธรรมกายประจำตัวที่ให้ร่วมบุญองค์ละหมื่นบาทนั้นเเพง คนพูดนี้เขาพูดเเบบคนไม่รู้เรื่อง ไม่รู้คุณค่าถึงสิ่งที่เรากำลังทำ
หลวงพ่อท่านเลยบอกว่าต่อไปนี้ใครจะร่วมบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวจะต้องร่วมบุญองค์ละ 15,000 บาท จากนั้นมาทุกคนต้องร่วมบุญเพิ่มจากองค์ละ 10,000 เป็น 15,000 บาท ซึ่งองค์พระธรรมกายประจำตัวของเรานั้น
ต้องตากเเดดตากฝนเป็นพันปี โลหะที่ใช้ไม่ใช่ทองเหลืองเเบบทั่วๆไป เป็นทองสัมฤทธิ์ไม่ใช่ทองสัมฤทธิ์ธรรมดา เป็นทองสัมฤทธิ์เเบบซิลิคอนด้วย
จากเเนวคิดการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ หลวงพ่อท่านบอกให้อยู่เป็น 1,000 ปี เพราะฉะนั้นไม่เปิดให้ใครเข้าไปภายในเจดีย์ พอบรรจุองค์พระธรรมกายประจำตัวเสร็จ ทุกอย่างก็เสร็จหมด จะไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คอยดูเเลรักษาเจดีย์ เพราะฉะนั้นมหาธรรมกายเจดีย์ของเราต้องไม่ใช่เจดีย์ตายๆเเต่เป็นมหาเจดีย์ที่หายใจได้
มหาธรรมกายเจดีย์ทำความสะอาดด้วยตัวของตัวเอง เมื่อฝนตกลงมาจะ
ชะล้างฝุ่นที่เป็นองค์พระบนโดม เเละที่เชิงลาดของมหาธรรมกายเจดีย์ ข้างในเจดีย์มีช่องอยู่ ช่องชั้นข้างบนเเละชั้นข้างล่างใต้โดมจะเป็นชั้นๆให้อากาศถ่ายเทได้ หมายถึงอะไร เวลาเเดดส่องมา องค์เจดีย์จะร้อนมาก คนอยู่ไม่ได้ เอามือเเตะไม่ได้ อุณหภูมิประมาณสัก 76 องศาพอร้อนจัด อากาศที่อยู่ข้างในก็จะขยายตัว ลอยตัวขึ้นมา อากาศร้อนที่ลอยตัวขึ้นมาจะดูดอากาศเย็นที่อยู่ข้างล่างให้เข้าไปตามช่องที่เรากำหนดไว้ นี่คือการให้เจดีย์หายใจ เป็นหลักการเดียวกันกับหลักของกาลักน้ำ ซึ่งเกิดจากน้ำที่อยู่สูงกับน้ำที่อยู่ที่ต่ำเเล้วเรามีท่อต่อมันจะดูดจากข้างบนลงมาข้างล่างได้ เช่นเดียวกันอุณหภูมิสูงมันจะดูดอุณหภูมิต่ำขึ้นมา เราเรียกเทอร์โมไซฟอน(Thermosiphon)
การที่มหาธรรมกายเจดีย์หายใจได้ จะทำให้อากาศถูกดึงออกไปเกิดการถ่ายเทอากาศ เลยทำให้ไม่อับ เเล้วเราไม่ต้องมีอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีไฟฟ้า เเต่ระหว่างที่เราต้องทำงานจะมีสายไฟชั่วคราว เมื่อใดก็ตามที่การก่อสร้างเสร็จหมด เราจะปิดเจดีย์ ระบบไฟฟ้าไม่มีความจำเป็นเลย เเละทุกอย่างจะอยู่ต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อย 1,000 ปี....
เเหล่งอ้างอิง เรื่องเล่าจากพระครูปลัดภูเบส ฌานาภิญฺโญ สโตร์หน้าวัด The Store Story