วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


ถ้าหากมีการนำคดีสหกรณ์ไปสร้างเป็น
ภาพยนตร์แนวสืบสวน โดยตัวละครเอก
เป็น "นักสืบเอกชน" แล้วล่ะก็
เรื่องนี้จะต้องทำการสืบสวนพฤติกรรม
ของแต่ละกลุ่มด้วยประเด็นข้อสงสัยเหล่านี้
ขั้นแรก - พระเอกต้องสืบจากกลุ่มสหกรณ์ก่อน
ประเด็นที่ต้องสืบสวนหาความจริงคือ
1. ทำไมสหกรณ์ถึงไม่ทวงเงิน 400 กว่าล้าน
คืนจากดีเอสไอ ทั้งที่เป็นเงินของสหกรณ์โดยตรง
และเป็นเงินที่ต้องได้คืนเต็มจำนวนจากการขายทรัพย์สิน
ของกลางผ่านดีเอสไอ และสหกรณ์เองก็กำลัง
ขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินจ่ายคืนสมาชิกอยู่ในขณะนี้ ?

2. ถ้าสหกรณ์ไม่กล้าทวงเงินคืน ทำไมดีเอสไอ
จึงไม่เป็นฝ่ายคืนเงิน 400 กว่าล้านเอง
ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าสหกรณ์กำลังประสบปัญหา 
และสมาชิกสหกรณ์กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก  ?

3. เงินสหกรณ์ 13,000 ล้าน ถูกมอบให้กับบุคคล 32 ราย
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายมีเพียง 10 %
และศิษย์วัดได้ตั้งกองทุนเยียวยาช่วยเหลือจบไปแล้ว
ประเด็นที่น่าสงสัยก็คือ
3.1) ทำไมสมาชิกสหกรณ์ถึงมุ่งสนใจเฉพาะเงิน 10 %
ที่ได้รับการเยียวยาแล้ว และไกล่เกลี่ยกันได้แล้ว
เหตุใดมาเสียเวลาทวงถามเงินกับกลุ่มคน
ที่ไม่ได้ติดหนี้สหกรณ์แม้แต่บาทเดียว
3.2) ทำไมสมาชิกสหกรณ์ไม่สนใจเงินอีก 90 %
ที่อยู่ในมือของบุคคลอีก 30 กว่าราย
ซึ่งมีมูลค่าโดยรวมสูงถึง 12,000 ล้านบาท
และไม่เคยตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยา
สมาชิกสหกรณ์เลยแม้แต่บาทเดียว
--------------------------

ขั้นสอง - พระเอกต้องสืบจากกลุ่มดีเอสไอ
เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีคนยักยอกเงินสหกรณ์มาบริจาคให้วัด
ซึ่งถ้าตรวจสอบเส้นทางเงินแล้วพบว่า
หลวงพ่อวัดพระธรรมกาย
เป็นเพียงผู้รับบริจาคเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้นำเงินออกมาจากสหกรณ์
ไม่รู้ที่มาของเงิน และรับบริจาคอย่างเปิดเผยต่อหน้าสาธารณะ 
ตามหลักก็ควรจะกันไว้เป็นพยาน
ประเด็นที่ต้องสืบสวนก็คือ
1. ทำไมดีเอสไอถึงตั้งข้อหาว่าหลวงพ่อวัดพระธรรมกาย
ว่าสมรู้ร่วมคิดกับผู้บริจาคทำการฟอกเงินและรับของโจร
ทั้งๆ ที่เส้นทางการเงินมีหลักฐานเพียงแค่เป็นผู้รับบริจาคเท่านั้น ?
2. ทำไมดีเอสไอถึงต้องสร้างสถานการณ์หลายอย่าง
จนไปสู่การออกหมายจับ เพื่อนำตัวหลวงพ่อวัดพระธรรมกาย
มาไว้ในอำนาจรัฐให้ได้ ทั้งที่ท่านกำลังป่วยหนัก
และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ?

3. ทำไมเมื่อมีผู้รู้กฎหมายระดับประเทศหลายคน
ทั้งที่เป็นรองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ทนายอาวุโส

ทนายสิทธิมนุษยชน แม้กระทั่ง อดีต ผบ.ตร.
ออกมาช่วยกันทักท้วงว่า การสอบสวนของดีเอสไอ
ทำผิดระเบียบหลายอย่าง ทั้งการตั้งคดีซ้ำซ้อน
การตั้งข้อหาโดยหลักฐานไม่ครบองค์ประกอบข้อหา
และลัดขั้นตอนการสอบสวนหลายอย่าง แต่ดีเอสไอก็ไม่ฟัง
และยังดึงดันจะต้องนำตัวหลวงพ่อมาฟ้องศาลให้ได้ ?

4. ทำไมเมื่อดีเอสไอส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการไปแล้ว
แต่กลับยังดำเนินการสอบสวนต่อไปอีก
ทั้งๆ ที่เป็นการ
ทำผิดระเบียบถึงขั้นก้าวกายแทรกแซงอำนาจอัยการหลายอย่าง
ตั้งแต่ขัดต่อระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ข้อ 66, 32 
ขัดต่อแนวคำพิพากษาศาลฎีกา และความเห็นคณะกรรมการ
กฤษฎีกา 2 เรื่อง (เรื่องเสร็จที่ 415/2548 และ 944/2547)
และขัดต่อ ป.วิ อาญา มาตรา 39 (2) แม้มีอดีต ผบ.ตร
ทักท้วงว่าคดีอยู่ในมืออัยการแล้ว ดีเอสไอควรอยู่เฉยๆ
แต่ก็ไม่ฟัง ยังดึงดันจะสอบสวนต่อไปให้ได้ ?

5. ทำไมเมื่อดีเอสไอส่งสำนวนตั้งข้อหาฟอกเงินและรับของโจร
จำนวน 32 แฟ้ม 1 หมื่นหน้า ให้กับอัยการได้เพียงไม่กี่วัน 
อัยการกลับมีคำสั่งลงมาว่า ให้ดีเอสไอไปทำเส้นทางการเงินมาใหม่
ใช่เป็นเพราะว่าหลักฐานการทำความผิดไม่มีใช่หรือไม่
ใช่เป็นเพราะว่าเส้นทางการเงินไม่เข้าองค์ประกอบข้อหาหรือไม่

6. ถ้าหากสำนวนสอบสวนของดีเอสไอยังไม่เรียบร้อยแบบนี้
ทำไมถึงต้องรีบส่งสำนวนให้อัยการ ทำไมถึงต้องรีบนำตัว
หลวงพ่อวัดพระธรรมกายมาฟ้องศาลให้ได้ ?

7. แนวทางการทำคดีของดีเอสไอตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
จะช่วยให้สหกรณ์รอดพ้นจากภาวะล้มละลายได้หรือไม่
เพราะยังไม่สามารถตามเงินมาคืนสหกรณ์ได้แม้แต่บาทเดียว
ขณะที่คดีก็ใกล้จะหมดอายุความไปทุกปี หากมิใช่เพราะ
กองทุนเยียวยาศิษย์วัดมาต่อท่อน้ำเลี้ยงไว้ สหกรณ์คงล้มไปแล้ว
---------------------------------
ขั้นสาม - พระเอกจะต้องมาสืบจากกลุ่มวัดพระธรรมกาย
1. เส้นทางการเงินทั้งหมดของวัดพระธรรมกาย
มีส่วนเข้าไปพัวพันกับธุรกรรมการเงินของสหกรณ์หรือไม่ ?

2. เงินบริจาคที่เข้าไปยังวัดพระธรรมกาย ถูกนำไปบริหารจัดการ
อย่างไร ถูกใช้จ่ายออกไปอย่างไร มีผลลัพธ์ใดเกิดขึ้นบ้าง ?

3. ความหวาดระแวงระหว่างศิษย์วัดพระธรรมกายกับดีเอสไอ
เริ่มต้นจากที่จุดใด ทวีความรุนแรงข้นได้อย่างไร และปัญหาใด
ที่ทำให้หมดความไว้วางใจต่อดีเอสไอและกระบวนการยุติธรรม ?

4. ทำไมศิษย์วัดต้องตั้งกองทุนต่อท่อน้ำเลี้ยงให้กับสหกรณ์
เพราะในเมื่อไม่มีหลักฐานว่าทำธุรกรรมร่วมกัน และไม่มีหลักฐาน
ว่านำเงินออกมาจากสหกรณ์
การปล่อยให้สหกรณ์ล้มละลาย
ไปก่อนคดีหมดอายุความ จะไม่เป็นการง่ายกว่าหรือ
เพราะขาดสภาพคล่องถึง 13,000 ล้าน
หากสหกรณ์ไม่มีแหล่งเงินกู้
ที่วงเงินระดับเดียวกันนี้ ก็ยากจะเรียกความน่าเชื่อถือกลับคืน ?
แต่ทำไมศิษย์วัดนี้กับยังช่วยเหลือ ทั้งที่ตัวเองก็กำลังจะโดนฟ้อง ?

5. ทำไมวัดพระธรรมกายที่มีศิษย์มากมายถึง 4-5 ล้านคน
เมื่อถูกดีเอสไอรุกหนักขนาดนี้กลับเลือกตั้งรับอย่างใจเย็น
ขณะที่ดีเอสไอก็เปิดช่องโหว่มากมายขนาดนี้
กลับเลือกที่จะไม่ฟ้องกลับ เลือกที่จะปล่อยให้ดีเอสไอ
ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดได้ตามใจชอบ 
ซึ่งถ้าเป็นองค์กรอื่นป่านนี้ฟ้องสกัดจนเละตุ้มเป๊ะไปแล้ว
เพราะเหตุใดวัดพระธรรมกายจึงเลือกแนวทางสงบ สันติ อหิงสา
ในการต่อสู้กับวิธีการใช้กฎหมายของดีเอสไอ

---------------------------------------
ถ้าหากเรื่องนี้ถูกทำเป็นภาพยนตร์ออกมา คงเป็นมหากาพย์
ที่สนุกสนานซับซ้อนซ่อนเงื่อน เต็มไปด้วยตัวละครลับมากมาย
และพระเอกก็ต้องเก่งโคตรๆ
ถึงเข้าไปสืบคดีในกลุ่มสหกรณ์
กลุ่มดีเอสไอ กลุ่มวัดพระธรรมกาย โดยไม่ถูกจับพิรุธได้
หรือถูกจับตัวเข้าคุกในข้อหาบุกรุกในยามวิกาลไปเสียก่อน (จบ)

---------------------------------

๓๐ มิถุนายน ๒๕๙

๒๐.๕๖ น.
ปล. หนังฟอร์มยักษ์ขนาดนี้ จะหาทุนสร้างได้ไหมเนี่ย
Cr.หลวงพี่ตรีเทพ


















0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Unordered List

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

โพสต์แนะนำ

ภูติ ผี ปีศาจ เเตกต่างกันอย่างไร

                ภูติ ผี ปีศาจ เป็นคำที่เราเคยได้ยินได้ฟัง มาตั้งเเต่ยังเด็ก เเม้กระทั่งละคร ภาพยนต์ต่างๆก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้...

Popular Posts

Text Widget