กรณีธรรมกาย : “บิ๊กตู่” “พระธัมมชโย” มาปรับทัศนคติให้ถูกต้องกัน!
“บิ๊กตู่” “พระธัมมชโย” มาปรับทัศนคติให้ถูกต้อง!
วันนี้ผมมีประเด็นที่น่าสนใจในการสัมภาษณ์ ของท่านนายกบิ๊กตู่ กรณีธรรมกาย พระธัมมชโย อยู่ 3 ประเด็นหลัก อันที่จริงผมเองก็มองมุมเดียวกับท่านนะครับ แต่ผมรู้สึกว่าท่านอาจจะได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนของปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งผมอยากจะเสนอความเห็น ดังนี้
ประเด็นที่ 1 คำพูดของท่านบิ๊กตู่ กรณีพระธัมมชโย ที่ว่า “ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนไม่กี่คนนั้น” ไม่น่าจะถูกต้องทั้งหมดนะครับ
เพราะหากดูตามกฎหมาย จะเห็นได้ว่า
เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติต่อหลวงพ่อธัมมชโย
เกินกว่าที่จำเป็น
ซึ่งทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่ากรณีธรรมกาย พระธัมมชโย dsi หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการอยู่ กระทำการเข้าข่ายการใช้อำนาจโดยไม่ชอบหรือไม่?
ตั้งแต่ที่กรณีธรรมกาย พระธัมมชโย dsi ปฏิเสธที่จะเข้าไปพิสูจน์อาการป่วยและไม่ยอมเข้าไปในวัดเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหากับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งป่วยหนักไม่สามารถเดินทางออกจากวัด ทั้งที่ไม่ได้ผิดข้อกฎหมาย ทั้งที่ประเทศของเราเป็นเมืองพุทธ
การแสดงออกกรณีธรรมกาย พระธัมมชโย dsi เจ้าหน้าที่รัฐ จะให้เกียรติพระหรือทำให้ดีกว่านี้ได้หรือไม่? เพราะหลวงพ่อธัมมชโย วัดพระธรรมกาย ท่านเป็นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ชั้นเทพ บวชมา 40 กว่าพรรษา อายุ 72 ปี และมีผู้เลื่อมใสศรัทธาเรือนล้าน
กรณีธรรมกาย พระธัมมชโย dsi ออกหมายเรียก และพยายามกดดันให้เดินทางออกจากวัดไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยไม่ใส่ใจประนีประนอมว่าท่านจะออกมาได้หรือไม่ได้ ปฏิบัติกับท่านเฉกเช่นเดียวกับเป็นผู้ก่อการร้าย
จนกระทั่งบานปลายเป็นหมายจับ กลายเป็นจำเลยสังคม ประหนึ่งศาลพิพากษาให้กลายเป็นผู้ต้องหา ทั้งๆที่ยังอยู่ในกระบวนการชั้นต้น ยังเป็นผู้บริสุทธิ์
นอกจากหลวงพ่อธัมมชโยแล้ว จะต้องมีคนอีกกี่คนที่ต้องวนเข้าสู่กระบวนการในแบบนี้อีก??
คำตอบคือ ประชาชนทุกคนครับ !!!
โดยเฉพาะพระสงฆ์ ซึ่งถ้าหากถูกใส่ร้ายว่ารับของโจรและฟอกเงินอีก เมื่อถูกเรียกมาก็ต้อง เดินออกจากวัดมารับทราบข้อกล่าวหาแม้จะป่วย ให้ภาพพระสงฆ์มีลูกศิษย์ประคองขนาบข้างเดินขึ้นโรงพักเป็นภาพชินตา เหมือนผู้ร้ายเข้ามอบตัว
ทั้งที่ท้ายที่สุดคดีอาจจะถูกยกฟ้อง แต่ข่าวที่เสนอไปแล้วมันกลายเป็นภาพลบในสายตาผู้คน เสื่อมเสียชื่อเสียงจนไม่สามารถกู้กลับคืนมาได้
ต่อไปมันจะกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคม ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ถูกละเมิดโดยรัฐ ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่รัฐต้องคุ้มครองมากที่สุด
กรณีธรรมกาย พระธัมมชโย dsi นี้ผมจึงมองว่าเรื่องดังกล่าวมิได้เป็นเรื่องของคนไม่กี่คน แต่เป็นเรื่องของสิทธิ และศักดิ์ศรีของคนไทยทั้งประเทศ
คนทุกคนจะได้รับผลร้ายจากการถูกละเมิดสิทธิ์ เริ่มจากกรณีของหลวงพ่อธัมมชโยอย่างแน่นอน!!!
ประเด็นที่ 2 เรื่องการเอาลวดหนามมาล้อมและการตั้งป้อม ที่ท่านนายกบอกว่าการกระทำแบบนี้จะทำให้เรื่องราวใหญ่โต ต้องมีการฆ่ากันขึ้น
ในเรื่องนี้แบ่งย่อยได้เป็นอีกสองเรื่อง คือ
1. การล้อมรั้วตั้งป้อม ปิดประตูซึ่งเป็นการกระทำในที่ของวัด ไม่ได้ไปทำในในสวนลุมฯ ซึ่งเป็นที่สาธารณะ สถานที่ต่างกันครับ จะใช้หลักการเดียวกันมาเปรียบเทียบกันไม่ได้
อย่างนี้ผมสร้างบ้านมาแล้วทำรั้วลวดหนามขึงไว้บนกำแพง หรือทำประตูลวดหนามก็ผิดหรือครับ?? ตรงนี้ผมเห็นต่าง การพูดแบบนี้เหมือนเป็นการชี้นำว่าการป้องกันตัวของวัด เป็นการกระทำที่ผิด ซึ่งมันหมิ่นเหม่ต่อการตีความไปต่างๆนานาทำให้เกิดความเข้าใจผิดขยายออกไปเป็นวงกว้าง
2. คำพูดท่านนายกบิ๊กตู่ กรณีพระธัมมชโย พูดว่าการตั้งป้อม ทำให้มีคนยิงเข้ามา เจ้าหน้าที่มีสิทธิป้องกันตัวโดยการยิงสวนไป หากเกิดไปโดนคนปฏิบัติธรรมจะทำยังไง
เรื่องนี้มันมีนัยยะสำคัญว่าเป็นการชี้นำและการสร้างความชอบธรรมเมื่อเกิดความรุนแรงขึ้น
เหมือนกับว่ามีการรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น?? และเหมือนเป็นการชี้นำสองมาตรฐาน คือ วัดป้องกันโดยไม่ทำอะไรใคร ในพื้นที่ส่วนบุคคล แต่วัดผิด
ตรงข้ามหากเป็นเจ้าหน้าที่ยิงคนบริสุทธิ์ที่มาปฏิบัติธรรมในรั้ววัด เจ้าหน้าที่ถูก???
ประเด็นที่ 3 การที่กล่าวว่ากรณีพระธัมมชโย dsi ถ้าท่านมอบตัวก็จบ สถานการณ์จะได้ไม่บานปลายขนาดนี้
นี่ก็เป็นการพูดชี้นำอีกแล้วครับ!! ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพระธัมมชโยไม่เข้ามอบตัว ซึ่งท่านเองพูดเองครับว่า…
คดียังไม่สิ้นสุดต้องไปพิสูจน์กันต่อ
คำถามคือกรณีธรรมกาย พระธัมมชโย dsi ทำไมเราถึงไม่มองบ้างว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร? ยุติธรรมหรือไม่? ทำไมไม่ให้หน่วยงานของรัฐออกมาแสดงรับผิดชอบ ออกมาชี้แจงในประเด็นที่สังคมสงสัย เมื่อเป็นหน่วยงานของรัฐต้องเป็นกลางให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย
หากได้เข้ามาศึกษาเหตุการณ์ในเรื่องนี้ดีๆ ผมมั่นใจว่า ท่านจะสามารถให้ความเป็นธรรมได้ทั้งสองฝ่ายครับ และจะไม่ถูกมองว่ามีอคติ
หวังว่ากรณีธรรมกาย หลวงพ่อธัมมชโย dsi นี้จะเป็นเคสตัวอย่างในการยืนหยัดในความถูกต้องและ หยัดสู้เพื่อ ให้ได้มาซึ่งกระบวนการยุติธรรมที่แท้จริง… บนพื้นฐานของการเคารพในสิทธิ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สุดท้ายหวังว่าท่านนายกจะเข้าใจและนำพาประเทศไปสู่ความเจริญได้สำเร็จ ยังไงผมก็เป็นกำลังใจครับ
– ทันธรรม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น