ประธานสงฆ์องค์กรพุทธประเทศอินเดีย ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมแก่หลวงพ่อธัมมชโย ต่อ ฯพณฯประยุทธ์
ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ณ กงสุลไทยมุมไบ ประเทศอินเดีย พระภัททันตะ ธรรมานัค
ชาราน พาหุเทสะนียะ เสวาภาวี สะนาถะ ประธานและผู้ก่อตั้งองค์กรพุทธแห่งชาติ บันดันธัมมัง ประเทศอินเดีย
ชาราน พาหุเทสะนียะ เสวาภาวี สะนาถะ ประธานและผู้ก่อตั้งองค์กรพุทธแห่งชาติ บันดันธัมมัง ประเทศอินเดีย
จดหมายเปิดผนึกแปลเป็นไทย
วันที่ ๑ พ.ค. ๒๕๕๙
ถึง
สถานกงสุลไทย
ชั้น ๑๒ อาหารเอ็กเพรสทาวเวอร์
บานิสเตอร์ ราชินี พาเทล มาร์ก
นาริมัน พอนท์
มุมไบ ๔๐๐๐๒๑
ขอความยุติธรรมในกรณีของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
กรมการสอบสวนคดีพิเศษของไทย (ดีเอสไอ) ได้ให้ข้อมูลที่ผิดมากมายเกี่ยวกับการออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ข้อมูลผิดโดยเจตนานี้ได้ถูกส่งต่อไปยังสื่อท้องถิ่น ส่งผลให้ผู้อ่านหลายคนเกิดความสับสนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังกรณีนี้
ข้อเท็จจริง คือ
นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ขณะดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ได้บริจาคเงินให้แก่วัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนีเพื่อใช้ในการสร้างศาสนสถานและเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของวัด ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีคนศรัทธากว่าล้านคนและมีพระสงฆ์ สามเณรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
การบริจาคครั้งนั้นล่วงมากว่า ๔ ปีแล้ว ซึ่งไม่มีหลักฐานการกระทำผิด และนายศุภชัยก็ยังได้บริจาคให้แก่วัด โรงเรียน มหาวิทยาลัย การกุศล และหน่วยราชการอื่นๆ อีกด้วย
เงินที่บริจาคให้วัดพระธรรมกายและหลวงพ่อธัมมชโยได้ทำอย่างเปิดเผย ไม่มีการจงใจปกปิด ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเจตนาฟอกเงินใดๆ การสั่งจ่ายเช็คเข้าออกล้วนดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่การเงินของวัด
การกล่าวหาพระเทพญาณมหามุนีว่ารับของโจรและฟอกเงินนั้น ควรมีหลักฐานยืนยันว่าท่านตั้งใจสมคบกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในการยักยอกเงินไว้สำหรับใช้ส่วนตัว ไม่มีหลักฐานใดๆ ปรากฏและนายศุภชัยเองก็ได้แถลงการณ์ยืนยันเรื่องนี้ด้วย ข้อมูลนี้เป็นที่รู้กันดีในคณะผู้สอบสวนดีเอสไอ แต่เขาก็ยังพยายามที่จะเชื่อมโยงท่านเจ้าอาวาสในคดีนี้ เพราะเหตุใด
เมื่อทางวัดทราบถึงเหตุการณ์สหกรณ์เครดิตยูเนียน ลูกศิษย์ได้ช่วยกันตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาเท่ากับจำนวนเงินที่นายศุภชัยบริจาคมา เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้แก่สมาชิกด้วยกันอัดฉีดเงินเข้าไปในกระแสเงินสดของสหกรณ์ฯ
หลังจากเหตุการณ์นี้ ทางสหกรณ์ฯได้ออกมาแถลงการณ์ถอนฟ้องคดีความทั้งทางเพ่งและอาญา และกล่าวขอบคุณลูกศิษย์ของพระเทพญาณมหามุนีสำหรับความเมตตา
ข่าวบิดเบือนได้ถูกตีพิมพ์ตามสื่อต่างๆ กล่าวหาว่าวัดพระธรรมกายสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ขณะที่ทางวัดมีลูกศิษย์มากมายทั้งต่างอายุ ต่างเพศ ภูมิภาค อาชีพการงานและต่างมุมมองทางการเมือง วัดมุ่งเน้นในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และไม่มีความประสงค์ที่จะเกี่ยวข้องทางการเมืองเลย
หลวงพ่อธัมมชโยได้อุทิศตนมาตลอด ๔๗ ปี เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาและการทำสมาธิในแบบธรรมกาย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่มีความศรัทธาจำนวนกว่าล้านทั้งในประเทศไทยและ ๘๐ สาขาใน ๓๓ ประเทศทั่วโลก ในชีวิตที่เรียบง่ายและบริสุทธิ์
หลวงพ่อธัมมชโยได้สนับสนุนเงินหลายพันล้านบาทให้แก่การกุศลมากมาย เช่น กองทุนช่วยเหลือครูใต้กว่า ๓๐,๐๐๐ คน จัดเตรียมสิ่งของจำเป็นและอาหารสำหรับงานอุปสมบทหมู่กว่า ๑๐,๐๐๐ รูป สองครั้งต่อปีในเมืองและตามหมู่บ้านต่างๆทั่วไทย และยังให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พายุ และสึนามิ
สิ่งก่อสร้างต่างๆ อันประณีตในวัดพระธรรมกายถูกสร้างจากเงินบริจาคของญาติโยมโดยไม่ใช้เงินรัฐเลย และสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะอยู่เป็นสมบัติของชาติและพระพุทธศาสนาต่อไปสำหรับลูกหลานในอนาคต
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายตอนนี้อายุ ๗๒ ปี เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น เส้นเลือดดำอุดตันและมีแผลติดเชื้อที่ขาซึ่งทีมแพทย์ก็ได้ออกมายืนยัน แต่ดีเอสไอไม่สนใจในสุขภาพของเจ้าอาวาสและไม่คิดจะตรวจอาการของท่านเลย กลับมีความพยายามในการออกหมายจับหลวงพ่อธัมมชโยได้ถูกศาลสั่งยกคำร้องในวันที่ ๒๖ เมษายน กระนั้น ดีเอสไอก็ยังประกาศเรียกเจ้าอาวาสเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอีกในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม
จากหลักฐานที่ชัดเจน พระเทพญาณมหามุนีไม่ทราบถึงที่มาของเงินบริจาคของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ซึ่งบริจาคก่อนจะเป็นคดีความ และการระดมทุนเพื่อเยียวยาสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นนั้น จึงมีคำถามว่าทำไมดีเอสไอถึงยืนหยัดที่จะสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่วัดพระธรรมกายและการสถาปนาพุทธศาสนาในพระเทศไทย
ขอแสดงความขอบใจ
พระภัททันตะ ธรรมานัค
ชาราน พาหุเทสะนียะ เสวาภาวี สะนาถะ
ประธานองค์กรฯ
เอกสารแนบถึง พลเอก ประยุทธ จันโอชา
ทำเนียบรัฐบาล, ถนนพิษณุโลก 1, ดุสิต, กรุงเทพ ๑๐๓๐๐
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น