ขณะที่นั่งในรถตู้อยู่บนทางด่วน มีรถนักข่าวช่องต่างๆขับมาประกบ
พวกเขาพยายามอย่างมากที่จะถ่ายภาพเข้ามาในรถ
คนขับรถของนักข่าว นักข่าวเเละตากล้อง ทำหน้าที่กันอย่างเอาเป็นตาย
ไม่กลัวอุบัติเหตุเลย
หรือว่าเขาอยากให้เกิดอุบัติเหตุ เพื่อจะได้มีข่าวพิเศษเพิ่มขึ้นมาก็ไม่รู้
เเต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเเล้ว ใครกันจะเป็นผู้รับผิดชอบ คงไม่มีเเน่นอน
ดังนั้นเราต้องระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจะเป็นการดีที่สุด
นั่งรถไปมองเห็นหลวงพ่อเเล้ว รู้สึกเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ เเทนท่านอย่างมาก
อยากให้วันนี้ผ่านไปเร็วๆ
รถขับมาถึงด้านหน้าตึกศาล ทำไมต้องมาที่นี่ก่อนก็ไม่รู้
ทั้งนักข่าว ตากล้อง หนังสือพิมพ์ ตากล้องโทรทัศน์ทุกช่อง
ต่างก็ระดมถ่ายภาพกันอุตลุด
ทุกคนมองมาที่หลวงพ่อใครต่อใครรู้สึกกันอย่างไรบ้างไม่รู้
เเต่พอมองจากจุดหลวงพ่อไปยังทุกคน ผมรู้สึกสงสาร
ถ้ามองในเเง่ดีก็เป็นภาพที่เเปลกตา
เเปลกอย่างบอกไม่ถูก
อยากบันทึกภาพถ่ายรูปนี้เก็บไว้ดู
ดูรูปคนที่เเย่งๆกัน ดูเเล้วยิ่งเกิดความสงสาร
ว่าเเล้วก็สามารถถ่ายภาพนี้ได้สำเร็จ
เจอพี่จำปียืนอยู่ใกล้ๆพี่เขามีกล้องติดมาด้วยพอดี
เลยขอยืมกล้องป๊อกเเป๊กของพี่เขาเเล้วถ่ายสวนกลับไปยังกลุ่มนักข่าว
เเชะ!เเชะ! ได้มา 2 เเชะ เเต่เเล้วก็เกือบมีเรื่อง
เมื่อเจ้าหน้าที่ประจำศาลรีบกรูกันเข้ามายังตัวผม เเล้วตะคอกถามผมว่า
"คุณเป็นใคร?"
"เข้าห้ามถ่ายภาพในนี้"
ขอบคุณ บันทึกอุปัฏฐาก
โค้ก อลงกรณ์ สถาปิตานนท์
บันทึกวันไปศาล ได้บันทึกสั้นๆไว้เพียงเเค่นี้
บ่งให้เห็นถึงความห่วงใย กังวล ปนความไม่เข้าใจ ซึ่งคนที่จะเข้าใจได้
คงเป็นใครสักคน ที่เป็นลูกที่รักเเละดูเเลพ่อเเม่ มาเป็นอย่างดี
เเล้ววันหนึ่งก็มีใครสักคน พยายามจะทำร้าย พ่อเเม่ที่ป่วยเเละชราของเรา
ไม่ว่าทางร่างกาย หรือจิตใจ
หัวใจคนเป็นลูกที่ไม่ทางต่อสู้ ได้เเต่เฝ้าท่าน ติดตามอย่างใกล้ชิด
เเละคอยให้วันเวลาที่เลวร้าย สับสนนี้ผ่านไปโดยไว
พี่โค้ก ไม่ได้มีตำเเหน่งใดๆ ทางโลก
เป็นเพียงอดีตเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ตัดสินใจเข้ามาทางธรรม
เนื่องจากเกิดความศรัทธาในพุทธศาสนาที่ทางบ้านได้พาเข้าวัดตั้งเเต่เล็กๆ
จนเมื่อจบภารกิจการเรียนทางโลก เเละการทำงานได้ซักพัก
ก็ได้ขออนุญาตทางบ้าน มาอยู่ในเส้นทางทางธรรม
ที่ตัวเองทำเเล้วมีความสุข
เเละด้วยความเมตตา จากพระผู้ใหญ่ที่เห็นความตั้งใจในการฝึกตัว
จึงได้รับมอบหมายให้มาดูเเลอุปัฏฐาก หลวงพ่อเจ้าอาวาสที่กำลังป่วย
นานนับสิบๆปีที่พี่โค้ก ทำหน้าที่ดูเเลผู้ป่วยที่ไม่ยอมป่วย
ยังคงทำงานหนัก เเละคงจะหนักกว่าคนปกติหลายๆคนด้วยซ้ำ
บันทึกของพี่โค้ก จึงถือเป็นพยานหลักฐานได้เป็นอย่างดี
ถึงชีวิตประจำวัน เหตุการณ์ต่างๆ ลักษณะอุปนิสัย วิธีปฏิบัติตัวของหลวงพ่อได้เป็นอย่างดี
เเละเชื่อว่า ถ้ายิ่งใกล้ยิ่งเห็นข้อบกพร่อง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
คนที่มีการศึกษาสูง ฐานะดี รูปสมบัติพร้อมอย่างพี่โค้ก
คงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้
บันทึกวันนี้ คงจบที่ความรู้สึกที่ไม่อยากบันทึกเหตุการณ์ที่ศาล
เเต่อีกวัน เราจะได้เห็นเหตุการณ์หลังจากไปศาล
ที่ใครๆอยากจะรู้ ว่าทำไม
จึงไม่ควรให้หลวงพ่อไปรายงานตัว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น