เสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2542
เกิดเหตุขึ้นได้อย่างไรก็ไม่รู้ เช้านี้ๆอยู่หลวงพ่อก็ไม่มีเสียง
ท่านพยายามพูด เเม้เสียงที่ออกมาจะเบามากเหมือนเสียงกระซิบ
ก็ถือว่ายังโชคดีที่ยังพอได้ยินบ้าง เเต่ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการเดาความหมายอย่างมาก
มื้อเช้า หลวงพ่อฉันเเค่ข้าวต้มกับไข่เค็ม
ส่วนมื้อเพล หลวงพ่อฉันข้าวต้มไป 2 ช้อน
หลังจากที่ปิดไฟในกุฏิเเล้ว กลางคืนหลวงพ่อลุกขึ้นมาเปิดไฟ เเล้วให้ติดต่อพี่หมอบุ๊งเพื่อขอยา
พี่หมอบุ๊งจัดยาให้ 2 เม็ด
เมื่อไม่มีเสียงพูดออกมา หลวงพ่อจึงใช้การเขียนเเทน
เเล้วหลวงพ่อก็ให้โค้กช่วยประสานงานในเรื่องต่างๆตามที่หลวงพ่อเขียน
ได้รับใช้หลวงพ่อช่วงนี้รู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษ
เลยคิดต่อไปว่า หากมีงานอะไรที่ผมพอจัดการทำได้ในเบื้องต้น
ก็อยากทำให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะไปถึงหลวงพ่อ
หรืองานอะไรของหลวงพ่อที่พอจะเเบ่งเบามาได้ อยากเเบ่งมาอีก
ยิ่งวันนี้เมื่อได้ยินหลวงพ่อพูดกับหลวงพ่อทัตตะเเล้ว
ยิ่งอยากช่วยเหลืองานหลวงพ่อ
ให้มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก
หลวงพ่อพูดกับหลวงพ่อทัตตะว่า
ไม่อยากได้อะไร
อยากทำที่พึ่งภายใน
เเล้วหลวงพ่อก็เขียนที่หน้าซองที่ท่านทำบุญประจำวันด้วยลายมือว่า
"ถ้าหลวงพ่อตายไปตอนนี้
ก็ขอให้ทำงานเผยเเผ่วิชชาธรรมกายต่อไป
ส่วนสมบัติอันพึงมีเกิดขึ้น
ขอมอบให้เป็นกองทุนการเผยเเผ่วิชชาธรรมกาย
พระราชภาวนาวิสุทธิ์
2 ตุลาคม 2542"
พอได้อ่านเเล้วบอกความรู้สึกไม่ถูกเลยว่าเป็นอย่างไร รู้เเต่ว่าหลวงพ่อท่านไม่ประมาท
ผมบอกตัวเองว่านี่ท่านไม่ได้สั่งเสีย
หลวงพ่อกำลังสั่งดี เหมือนเมื่อตอนสายๆท่านเขียนสั่งดีมาหนหนึ่งเเล้วว่า
ถ้าหลวงพ่อตายไป
ก็ให้ดำเนินงานต่อไป อย่ายอมเเพ้
พระราชภาวนาวิสุทธิ์
2 ต.ค.42
จากบันทึกอุปัฏฐาก
โค้ก อลงกรณ์ สถาปิตานนท์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น