ที่ในช่วงนี้ วัดพระธรรมกายกำลังถูกตีประเด็นร้อนเรื่องนี้อยู่
ทั้งที่สถานที่หลัก คือตัววัดพระธรรมกายเอง ที่ตั้งอยู่ใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เเละกระจายไปยังศูนย์สาขา ทั้งใน เเละต่างประเทศ ถูกเผยภาพทั้งอาคาร สถานที่ อย่างเจาะละเอียดเเละไม่พ้น
คำว่า อลังการงานสร้าง
โดยผู้เสพข่าว จากสื่อต่างๆ หากยังมาไม่ได้ ไปไม่ถึง ก็คงเชื่อตามนั้น
เเต่ผู้ที่มีหัวคิดนักบริหารจะรู้ทันทีว่า
หากจัดงานสักครั้งหนึ่ง ลงทุนไปจำนวนเท่าไหร่ มีคน หรือลูกค้ามาร่วมงานยิ่งมากเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายต่อหัวจริงๆก็จะลดลงเท่านั้น เเละนั่นหมายถึงผลกำไรก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ชึ่งการที่คนจะมาเยอะ ก็เเสดงว่าสินค้า หรือ สิ่งจูงใจนั้นดีเยี่ยม
วันนี้เมื่อเปลี่ยนจากหลักการบริหารธุรกิจที่ไม่มี "สินค้า"เป็นเเหล่งจูงใจ
เเต่มีการก่อตั้ง วัดที่ระดับปัญญาชน มาบริหาร เเละปกครอง
ตั้งเเต่ระดับลูกวัด หรือเด็กวัด ตลอดจนพระทั่วไป พระบริหาร จนถึงเจ้าอาวาส ล้วนมีการศึกษาอย่างต่ำระดับปริญญาตรี ไปจนถึงปริญญาเอก
อีกทั้งภาคบังคับของวัดเอง ที่บุคลลากรคนใดมีความสามารถถึงก็จะได้รับการส่งเสริมทางธรรม
ให้เรียนขั้นต่ำตั้งเเต่ธรรมศึกษา ไปจนถึง เปรียญธรรม 9 ประโยค
โดยไม่ทิ้งการปฏิบัติธรรมที่เป็นหัวใจสำคัญของการมาตั้งวัด
เเละสละชีวิตมาอุทิศทำงานเพื่อพระศาสนา
ก็จะมองภาพวัดพระธรรมกายบนหลักพื้นฐานของความเป็นจริงว่า
สมควรเเล้วที่วัดนี้ จะมาได้ไกลถึงจุดนี้
ไม่ใช่ตั้งคำถามว่า
"เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง"
เเละคนที่เคยมาสักครั้งในชีวิต ได้คิดเหมือนปัญญาชน
ก็สามารถลองคิดคำนวนค่าใช้จ่ายต่อหัว จำนวนคนที่เข้าร่วมโครงการเเต่ละครั้ง ไม่ใช่หลักสิบ เเต่อย่างต่ำหลักร้อย จนถึงพัน หรือหลักหมื่น จนถึงเเสน เเล้วจะเห็นว่าถูกเเสนถูก
คุ้มเเสนคุ้ม สำหรับการใช้สถานที่เเต่ละที่ ไม่ว่าในหรือนอกประเทศ
เหมือนงาน" ล้มวัวทั้งตัว กินได้ทั้งหมู่บ้าน"
เเละล่าสุดก็ได้เห็นสื่อพยายามขุดคุ้ย ตีเเผ่เรื่องที่ดิน ที่เขาใหญ่เเบบ เขียนข่าวเพื่อจุดประเด็นสังคม
ทางวัดเองก็ออกมาชี้เเจง มีทั้งหลักฐานเเละเอกสาร ข้อเท็จจริงก็มาเเสดง
ได้เห็นสื่อออกข่าวต่อ เเต่ก็เป็นการเขียนข่าวเเบบไม่จบ คือเขาอธิบายมาอย่าง
ไปเขียนอีกอย่าง เเบบอยากสร้างกระเเสขายข่าวต่อ
เรื่องของวัดพระธรรมกาย จะจบอย่างไร
หรือจะถูกขุดเรื่องอะไรรายวันต่อไป
ไม่ทราบ!!!!!
เเต่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า เมืองไทยต้องยังมีที่ให้คนดียืน
จึงขอเป็นกระบอกเสียงในการช่วยเเถลงข่าว ลงข่าว ชี้เเจงข้อมูลตามจริงที่ได้รู้ได้เห็นมา
อย่างตอนนี้ที่อีกฝ่ายพยายามจะหาข้อผิดเรื่องการครอบครองที่ดิน แต่ไม่พบ ตอนนี้เลยพยามหาข้อผิดในเรื่องการขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งทางวัดขออนุญาตตามขั้นตอนกับอบต.หมูสี จ.นครราชสีมาอย่างถูกต้อง
มีข้อมูลที่นำมาให้ศึกษาในเบื้องต้น
คำว่า "รุกที่เขาใหญ่" เป็นการเลี่ยงคำว่า "รุกที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่"
เพื่อหลอกคนอ่านให้เข้าใจว่าวัดบุกรุกที่อุทยาน
จริงๆแล้ว โซน ต.หมูสี(บ้านไร่ริมน้ำ) ต.โป่งตาลอง ก็เรียกว่า เขาใหญ่ทั้งนั้น
เพราะในทางการตลาด รีสอร์ทและโรงแรมแถวนั้นจะอ้างอิงเขาใหญ่ทั้งสิ้น เพื่อดึงดูดลูกค้า
1.พื้นที่ของ World Peace Valley อยู่ในเขตนิคมสร้างตนเอง เป็นเอกสารสิทธิ์ประเภท นส.3.ก สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ตามกฏหมาย อ้างอิงได้จาก แผนที่แนบท้ายกฤษฎีกา ถ้าคนโพสมีหลักฐานการทำผิดให้เอามาแสดงและแจ้งความได้เลย แต่ถ้ากล่าวหาลอยๆ เตรียมรับหมายศาล คดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทได้เลย
3.ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบแล้ว โดยเฉพาะ สปก.โคราช ออกมายืนยันแล้วว่า ไม่ใช่พื้นที่ สปก.
4.รูปแบบอาคาร มีการขออนุญาตก่อสร้างจากทาง อบต.โป่งตาลอง อย่างถูกต้องตามขั้นตอน กฏหมายควบคุมอาคาร ที่ต้องทำเป็นตึกเนื่องจากมีผู้ใช้งานจำนวนมาก
ก็ชี้เเจงตามข้อมูลเเละหลักฐานตามความเป็นจริง
เเละก็เชื่อเเน่ว่า วันพรุ่งนี้ที่ยังมาไม่ถึง
คงมีเรื่องใหม่มาให้คุยอีก
เเต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี สังคมจะได้รับทราบว่า ใครเป็นใคร อะไรเป็นอะไร
ทั้งที่สาเหตุเริ่มต้นดังของวัด
เเค่คดีรับบริจาคของโจร
ที่ทั้งเจ้าทุกข์เเละผู้ต้องคดีตัวจริง ก็ยืนยันว่าวัดเป็นเเค่ทางผ่านเงินบริจาค ไม่ติดใจเอาความใดๆ
เเล้วไหง วันนี้ลากยาวเอาเรื่องกันตั้งเเต่ป่วยจริง ไม่จริงของเจ้าอาวาส
จนถึงขุดคุ้ยเรื่องสิ่งก่อสร้าง ที่ดิน ปนเปเเบบจะเอาผิดให้ได้สักเรื่อง
สื่อ หรือสังคมกำลังสับสนอะไรหรือเปล่า?????
cr:หทัยชนก
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น