วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560



ข่มทิฐิช่าง
ตอนสร้างโบสถ์ ทางวัดจ้างช่างเฟอร์นิเจอร์ฝีมือดีมาก ชื่อช่างถวิล กับช่างสุพจน์ มาช่วยทำงาน ตอนนั้นค่าเเรงของเขาวันละ 180 บาท ขณะที่ค่าเเรงคนงานสมัยนั้นวันละ 18 บาท ค่าเเรงของเขาสูงสิบเท่าตัวของค่าเเรงทั่วไป เเสดงว่าฝีมือเขาย่อมไม่ธรรมดา พวกเขาทำงานละเอียดมาก ให้เขามาช่วยทำเเม่เเบบ
      พอเขาขึ้นไปวางเเบบ ซึ่งเเม่เเบบเเต่ละชิ้นเป็นรูปโค้งที่ต้องมาต่อกันหลายๆเเผ่น  เเต่ละเเผ่นต้องต่อให้สนิท ต่อให้เนี๊ยบหมดทุกเเผ่นเรียกว่าเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมืออย่างมาก เพราะความโค้งที่คานวิ่งมาชนกับฝ้า เมื่อตีฝ้าเเล้วมันต้องพอดี งานนี้เป็นงานที่ไม่ง่าย
     เขาขึ้นไปวางเเบบเคิร์ฟ(Curve) ส่วนโค้งของโบสถ์ เขาจับระดับน้ำไล่ไปไล่มาอยู่น่าน ตอนเเรกหลวงพี่ก็ปล่อยให้เขาทำไปก่อน เขาวางไม้เเบบเเล้วก็ไล่ระดับน้ำจากด้านหน้า ไปถึงด้านหลังก็ปรากฏว่าไม่เท่ากัน หายไปเเล้ว 2 เซนติเมตร พอไล่ระดับจากด้านหน้าเเละด้านหลังเข้ามา ปรากฏว่าตรงกลางหายไปอีก พอไล่จากทางซ้ายมาได้ มาเจอทางขวากลับไม่เท่ากัน พอหลวงพี่บอกวิธีของหลวงพี่ให้เขาไปว่า ช่างถวิล ช่างทำเเบบนี้นะ เขาบอกว่า หลวงพี่ผมขอเเก้ตัวใหม่ ด้วยศักดิ์ศรีเเละฝีมือของเขาจะต้องเอาให้ดีให้ได้ด้วยวิธีของเขา
    ช่างเขาวิ่งงานข้างบนซึ่งข้างบนทำงานยาก เขาใช้สายยางจับระดับน้ำ เเล้วดินสอขีด
วัดระดับต่างๆเพื่อให้เท่ากัน ซ้ายกับขวาต้องเท่ากัน บนกับล่างต้องเท่ากัน ข้างหน้า ตรงกลาง ตรงริม ตรงท้ายของโบสถ์ต้องเท่ากัน เขาวนกับงานนี้อยู่ 7 วัน ยังทำไม่เสร็จ ตอนนั้นงานเราเร่งมาก เเต่ต้องการที่จะข่มทิฐิช่าง เพราะช่างเขามีทิฐิเยอะ เราต้องเอาทิฐิช่างให้ลงเเล้วยอมเรา เพื่อที่เราจะได้คุมงานเขาได้ในเมื่อเสียเวลามาขนาดนี้เเล้วเขายังไม่ยอมเเพ้ เราจำเป็นต้องยอมเสียเวลาเพิ่ม หลวงพี่ให้เขาเเก้ตัว
     เขาหาซื้อสายยางวัดระดับน้ำมาใหม่ ดินสอที่ใช้เขาเหลาให้คมจนเรียกได้ว่าเเทบจะโกนขนได้ คมกริบเลย เเล้วเขาขึ้นไปเล็งวัดระดับใหม่ จากระดับนี้ไล่ระดับไปเรื่อยๆตรงจุดนั้น  ครั้งนี้เขามั่นใจมาก พอไล่ไปเรื่อยๆจากหัวไปท้ายก็ยังไม่เท่ากัน ผ่านไปอีกอาทิตย์หนึ่ง ผ่านไป 2 อาทิตย์ ในที่สุดเขาก็มาบอกว่า

หลวงพี่ครับผมยอม ไม่รู้มันทำไมถึงไม่เท่ากัน ผมว่าผมเล็งดีเเล้วนะครับ

    การไล่ระดับ โดยใช้สายยางจะมีเเรงตึงผิวน้ำ สายยางจะตกท้องช้งทำให้การวัดไล่ระดับคลาดเคลื่อนไปทีละนิดๆ เคลื่อนตรงนี้เเค่นิดเดียว เเต่พอไล่วัดไปเรื่อยๆกว่าจะถึงจุดโน้นก็เคลื่อนไปตั้งเท่าไรเเล้ว
ช่างเขาบอกว่าเขาลองใช้วิธีเฉลี่ยค่าออกมาเเล้วก็ยังใช้ไม่ได้ หลวงพี่ก็เลยบอกวิธีของหลวงพี่ให้เขา บอกให้เขาทำนั่งร้านสำหรับตั้งกล้อง เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ
    ให้เขาตั้งนั่งร้านจากตรงนี้ไปตรงนั้นรวม 3 นั่งร้าน หลวงพี่เอากล้องทำระดับขึ้นไปตั้ง เเล้วก็ทำตามขั้นตอน ถ้าเราตั้งกล้องได้ดี พอส่องกล้องยิ่งระดับตั้งเเต่หน้าโบสถ์ถึงท้ายโบสถ์ ทั้งซ้ายเเละขวา ทั้งหน้าทั้งหลัง ผลออกมาได้ระดับเดียวกันหมดเลย งานนี้ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงจบ ช่างเขาเลยบอก

ผมยอมหลวงพี่เเล้วครับ

    การจะเอาทิฐิช่างลงได้ ถ้าเราไม่มีฝีมือ เอาเขาไม่ลง เราต้องเป็นงานจริงๆ เราจึงจะคุมเขาอยู่ ต่อไปเราสั่งซ้ายเขาไปซ้าย สั่งขวาเขาไปขวา ไม่เช่นนั้นเขาจะเถียงเราตลอด ที่ผ่านมาหลวงพี่จะเจอช่างเเบบนี้เยอะ
     งานของเราใช้อำนาจไม่ได้ ถ้าเขาไม่ทำตาม เราไล่ออกไปไม่ได้ ถ้าเราอยากได้คนมาทำงาน อยากได้ม้าดีๆมาขี่ เราต้องเอามันให้อยู่
     ม้าเก่งๆเท่านั้นที่เราอยากขี่ ถ้าเราฝีมือไม่ดี ขี่เเล้วมันดีดเราตกหลังม้า หลังเราหักเลย จะขี่ม้าดีต้องมีฝีมือ ม้าพยศเราต้องปราบให้อยู่เเล้วถึงจะใช้งานมันได้

เรื่องเล่าจากพระครูปลัดภูเบส ฌานาภิญฺโญ
สโตร์หน้าวัด The Store Story หน้า 130-133
หมายเหตุ:  พระครูปลัดสุวัฒนธีรคุณ (ภูเบศ ฌานาภิญฺโญ)ท่านเป็นผู้หนึ่งในยุคบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย
ปัจจุบันท่านมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโส,เป็นกรรมการมูลนิธิธรรมกาย ,ประธานคณะกรรมการศูนย์กลางธรรมกายเเห่งโลก(WDC) เเละเป็นผู้อำนวยการสำนักสาธารณูปการของวัดพระธรรมกาย


วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560


ก่อนสร้างต้องตอบคำถามให้ได้
ก่อนก่อสร้างยุคหลังๆมานี้ เเม้เป็นเเค่เพียงเเบบสเก็ตซ์คร่าวๆนำไปให้หลวงพ่อดู  หลวงพ่อท่านจะต้องถามก่อนเป็นอันดับเเรกเลยว่า
ทำความสะอาดกันอย่างไร
การดูเเลรักษายากไหม จะเป็นภาระให้กับคนรุ่นหลังหรือเปล่า
ต้องตอบคำถามตรงนี้ให้ได้ก่อนเเล้วค่อยทำงานต่อ ถ้ายังตอบคำถามตรงนี้ไม่ผ่านก็ยังไม่ต้องไปออกเเบบ
เเสดงว่าสอบตกตั้งเเต่ยังไม่เริ่มสร้าง
เสาโบสถ์

เสาหน้าโบสถ์ต้นใหญ่ๆที่ยอดเสาเป็นดอกบัว ความจริงเเล้วในการรับน้ำหนัก
ตัวเสาไม่ต้องใหญ่ขนาดนี้ เเต่ทำไมต้องทำให้ใหญ่ เพราะต้องการข่มทิฐิคน
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาเจอเสาโบสถ์
ไม่ว่าใหญ่มาจากไหนก็ตาม
ก็ใหญ่ไม่เท่าเสาโบสถ์
เเละเมื่อลองเทียบกันจริงๆเสาโบสถ์ข่มได้หมดเลย
ข่มทั้งรูปร่างภายนอก เเละเข้าไปข่มทิฐิที่อยู่ภายในด้วย
   เมื่อเดินผ่านเสาโบสถ์เพื่อที่จะเข้าไปกราบพระประธานที่อยู่ภายใน
อย่างน้อยก็ทำให้ได้ฉุกคิดขึ้นมาว่า

เราจะยิ่งใหญ่มาจากไหนก็ตาม ก็ไม่ได้ใหญ่เกินไปกว่าโลง


เรื่องเล่าจากพระครูปลัดภูเบส ฌานาภิญฺโญ
สโตร์หน้าวัด The Store Story หน้า 130-133
หมายเหตุ:  พระครูปลัดสุวัฒนธีรคุณ (ภูเบศ ฌานาภิญฺโญ)ท่านเป็นผู้หนึ่งในยุคบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย
ปัจจุบันท่านมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโส,เป็นกรรมการมูลนิธิธรรมกาย ,ประธานคณะกรรมการศูนย์กลางธรรมกายเเห่งโลก(WDC) เเละเป็นผู้อำนวยการสำนักสาธารณูปการของวัดพระธรรมกาย


วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

มีบางคนเขาบอกว่าตั้งเเต่เจอโบสถ์มา
โบสถ์ของวัดพระธรรมกายไม่ใช่โบสถ์พุทธ
หลวงพี่ก็ถามเขากลับว่า ถ้าไม่ใช่โบสถ์พุทธเเล้วเป็นโบสถ์ของอะไร
เขาบอกว่ามันคล้ายๆโบสถ์คริสต์

เลยให้เขาไปช่วยสำรวจดูว่าทั่วโลกโบสถ์คริสต์มีหน้าตาเเบบนี้ไหม สุดท้ายเขาก็บอกว่าไม่มี เเล้ว
อย่างนี้จะมาบอกว่าเหมือนโบสถ์คริสต์ได้อย่างไร
 เเบบโบสถ์ที่เป็นอย่างนี้เพราะหลวงพ่อท่านมอบนโยบายมาให้ตอนเเรกๆที่จะเริ่มสร้างโบสถ์ หลวงพ่อท่านให้เถ้าเเก่เว้ง ซึ่งเป็นคนที่สร้างหอระฆัง สร้างกุฏิคุณยาย สร้างกุฏิพระ สร้างหอฉันอาคารยามา ต้องการให้เขาสร้างโบสถ์ เพราะว่างานเขาฝีมือประณีต เเต่เถ้าเเก่บอกว่าสร้างไม่ไหว งานใหญ่เกินไป

              เถ้าเเก่เว้งเป็นคนที่ใช้ได้ เขารู้กำลังของเขาเอง ส่วนหลวงพี่ต่างหากไม่รู้กำลังตัวเอง
เริ่มต้นสร้างโบสถ์
วันหนึ่งหลวงพ่อธัมมชโยท่านเดินมา ตอนนั้นหลวงพี่มหาชิโต หลวงพ่อทัตตชีโวก็อย่พร้อมหน้ากันหมด หลวงพ่อท่านมาบอกว่าให้สร้างโบสถ์เเบบนี้ๆๆ เเล้วท่านก็ถามว่า

"สร้างไหวไหม"
หลวงพี่มหาชิโตท่านก็มองมาทางหลวงพี่ หลวงพี่เองเป็นประเภทวัวหนุ่มไม่กลัวเสืออยู่เเล้ว ก็บอกท่านว่า

"ไหว" 

หลวงพี่มหาชิโตก็เลยตอบรับปากหลวงพ่อไปว่า


"ไหวครับ" 

หลวงพ่อก็ตกลงให้ลุยสร้างได้เลย
          ในเวลานั้นส่วนตัวของหลวงพี่เองต้องบอกว่า กระต๊อบสักหลังก็ยังไม่เคยสร้างเลย สร้างอย่างมากเเค่ถนนเท่านั้น พอจะต้องมาสร้างโบสถ์จะเป็นไปได้อย่างไร
         
เมื่อมีโจทย์ให้สร้างโบสถ์มา ก็ต้องเริ่มหาจุดเริ่มต้นในการสร้าง จุดเเรกที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของการสร้างโบสถ์นั้นเริ่มต้นจาก นักสร้างบารมีใจบุญที่ชื่อ สัมพันธ์ เป็นผู้มีอัธยาศัยใจคอดีมาก เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง มีทีมงาน มีช่างอยู่จำนวนหนึ่ง เเล้วก็มีความศรัทธาในหลวงพ่อ ได้เข้ามาปวารณาบอกว่าจะเอาทีมงานของเขามาช่วยหลวงพ่อสร้างโบสถ์ ให้หลวงพี่บริหารเองหมดทุกอย่าง จากจุดนี้ต้องบอกว่าคุณสัมพันธ์นี้เป็นคนทำให้เรามีความหวังขึ้นอย่างมาก ว่าเเล้วเขาก็ส่งทีมมา พอเริ่มมีจุดเริ่มต้น เราก็เริ่มเดินหน้าต่อไป
นโยบายสร้างโบสถ์
หลวงพ่อท่านให้นโยบายมาตั้งเเต่เริ่มสร้างโบสถ์เเล้วว่าให้ใช้ได้ตลอดชีวิต ดังนั้นสิ่งก่อสร้างของเรา
   1.ต้องประหยัดที่สุด
   2.ประโยชน์ต้องสูงที่สุด
   3.ต้องมั่นคงเเข็งเเรงที่สุด ชั่วชีวิตของเราไม่ต้องกลับมาซ่อมเเซมอะไรอีก เพราะเราไม่ได้บวชมาเพื่อจะมาก่อสร้างหรือซ่อมเเซม เรามาบวชเพื่อทำพระนิพพานให้เเจ้ง  เเละอย่าให้เป็นภาระหนักของคนรุ่นหลัง ถ้าจำเป็นต้องซ่อมเเซม ก็ต้องซ่อมได้ง่ายๆ
   4.ต้องดูเเล้วเรียบง่าย เเต่สง่างาม จนเกิดคำพูดที่เป็นวลีของท่านที่ติดหู เเละนำไปใช้ได้ว่า
     "เรียบ หรู ดูดี มีสไตล์ เเล้วก็ไฮคลาส ประหยัดที่สุด ประโยชน์สูง เเละโปร่ง โล่ง สะอาด มีระเบียบ
ไม่มีเสากลางห้อง"
เพราะฉะนั้นการที่จะต้องมาเเกะสลักลวดลายตามที่หลายๆคนบอกมาว่าต้องมีช่อฟ้า ใบระกา มีหางหงส์
มีทรงกนกต่างๆ เหล่านั้นต้องงดไป เพราะส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้คือไม้เเล้วมาเเกะสลัก
         หลวงพ่อท่านบอกว่า ในยุคของเราช่างฝีมือดีๆจากจังหวัดเพชรบุรี จากอยุธยา อ่างทอง ยังสามารถหาได้
เเต่จะเป็นภาระให้กับคนรุ่นต่อไป พวกเขาคงไม่ได้นั่งหลับตาเเน่ เพราะต้องคอยมานั่งซ่อมเเซมกันอยู่เรื่อยๆ หลวงพ่อท่านมองไปไกลมาก มองไปถึง 2-3 เจนเนอเรชั่น(Generation) ในอนาคตข้างหน้าเลย ให้สบายใจไม่ต้องเป็นภาระ เเล้วก็ให้ดูสะอาด ดูสว่าง ทำความสะอาดได้ง่าย จึงได้หันมาใช้วัสดุคอนกรีตเป็นหลัก
        ทั้งหมดนี้คือนโยบายที่หลวงพ่อให้มาครั้งเดียว เเล้วเราสามารถใช้ไปได้ตลอดชีวิต.....



เรื่องเล่าจากพระครูปลัดภูเบส ฌานาภิญฺโญ
สโตร์หน้าวัด The Store Story หน้า 130-133
หมายเหตุ:  พระครูปลัดสุวัฒนธีรคุณ (ภูเบศ ฌานาภิญฺโญ)ท่านเป็นผู้หนึ่งในยุคบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย
ปัจจุบันท่านมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโส,เป็นกรรมการมูลนิธิธรรมกาย ,ประธานคณะกรรมการศูนย์กลางธรรมกายเเห่งโลก(WDC) เเละเป็นผู้อำนวยการสำนักสาธารณูปการของวัดพระธรรมกาย


จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Unordered List

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

โพสต์แนะนำ

ภูติ ผี ปีศาจ เเตกต่างกันอย่างไร

                ภูติ ผี ปีศาจ เป็นคำที่เราเคยได้ยินได้ฟัง มาตั้งเเต่ยังเด็ก เเม้กระทั่งละคร ภาพยนต์ต่างๆก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้...

Popular Posts

Text Widget